เรื่อง ยายกับตา (ยายกะตา)

เรื่อง ยายกับตา (ยายกะตา)

ยายกะตาปลูกถั่วปลูกงาให้หลานเฝ้า หลานไม่เฝ้า กามากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายกะตายายมายายด่า ตามาตาตี หลานร้องไห้ไปหานายพราน ขอให้ช่วยยิงกา กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายก็ด่า ตามาตาก็ตี นายพรานตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของข้า”


หลานจึงไปหาหนู ขอให้ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยิงกา กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายด่า ตามาตาตี หนูตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของข้า”

หลานจึงไปหาแมว ขอให้แมวช่วยกัดหนู หนูไม่ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยิงกา กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายด่า ตามาตาตี แมวตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของข้า”

หลานจึงไปหาหมา ขอให้ช่วยกัดแมว แมวไม่ช่วยกัดหนู หนูไม่ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยิงกา กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายด่า ตามาตาตี หมาตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของข้า”

หลานจึงไปหาไม้ค้อนให้ย้อนหัวหมา หมาไม่ช่วยกัดแมว แมวไม่ช่วยกัดหนู หนูไม่ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยิงกา กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายด่า ตามาตาตี ไม้ค้อนตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของข้า”

หลานจึงไปหาไฟให้ช่วยไหม้ไม้ค้อน ไม้ค้อนไม่ช่วยย้อนหัวหมา หมาไม่ช่วยกัดแมว แมวไม่ช่วยกัดหนู
หนูไม่ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยิงกา กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายด่า ตามาตาตี ไฟตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของข้า”

หลานจึงไปหาน้ำให้ช่วยดับไฟ ไฟไม่ช่วยไหม้ไม้ค้อน ไม้ค้อนไม่ช่วยย้อนหัวหมา หมาไม่ช่วยกัดแมว
แมวไม่ช่วยกัดหนู หนูไม่ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยิงกา กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายด่า ตามาตาตี น้ำตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของข้า”

หลานจึงไปหาตลิ่งให้ช่วยพังทับน้ำน้ำไม่ช่วยดับไฟ ไฟไม่ช่วยไหม้ไม้ค้อน ไม้ค้อนไม่ช่วยย้อนหัวหมา
หมาไม่ช่วยกัดแมว แมวไม่ช่วยกัดหนู หนูไม่ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยิงกา กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายด่า ตามาตาตี ตลิ่งตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของข้า”

หลานจึงไปหาช้างให้ช่วยถล่มตลิ่ง ตลิ่งไม่ช่วยพังทับน้ำ น้ำไม่ช่วยดับไฟ ไฟไม่ช่วยไหม้ไม้ค้อน
ไม้ค้อนไม่ช่วยย้อนหัวหมา หมาไม่ช่วยกัดแมว แมวไม่ช่วยกัดหนู หนูไม่ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยิงกา กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายด่า ตามาตาตี ช้างตอบว่า “ไม่ใช่กงการอะไรของข้า”

หลานจึงไปหาแมลงหวี่ให้ช่วยตอมตาช้าง ช้างไม่ช่วยถล่มตลิ่ง ตลิ่งไม่ช่วยพังทับน้ำ
น้ำไม่ช่วยดับไฟ ไฟไม่ช่วยไหม้ไม้ค้อน ไม้ค้อนไม่ช่วยย้อนหัวหมา หมาไม่ช่วยกัดแมว
แมวไม่ช่วยกัดหนู หนูไม่ช่วยกัดสายธนูนายพราน นายพรานไม่ช่วยยิงกา กากินถั่วกินงาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนาน ยายมายายด่า ตามาตาตี แมลงหวี่ตอบว่า “ข้าจะช่วยตอมตาช้างให้ตาเน่า ทั้งสองข้าง”







ช้างตกใจจึงรีบไปช่วยถล่มตลิ่ง ตลิ่งจึงรีบไปช่วยพังทับน้ำ น้ำจึงรีบไปช่วยดับไฟ ไฟจึงรีบไปช่วยไหม้ไม้ค้อน ไม้ค้อนจึงรีบไปช่วยย้อนหัวหมา หมาจึงรีบไปช่วยกัดแมว แมวจึงรีบไปช่วยกัดหนู หนูจึงรีบไปช่วยกัดสายธนูของนายพราน นายพรานจึงรีบไปช่วยยิงกา กาจึงเอาถั่วเอางาเจ็ดเมล็ดเจ็ดทะนานมาคืนหลาน หลานเอาถั่วเอางาไปให้แก่ยายกะตา ยายกะตาก็เลิกด่าเลิกตีหลานแต่นั้นมา

ปัจจุบัน นิทาน ยายกะตา ปรากฏในแบบเรียนหลักของไทย คือ ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชุดภาษาไทยเพื่อชีวิต ชื่อหนังสือ “วรรณคดีลำนำ” และเคยจัดพิมพ์เฉพาะเนื้อเรื่อง เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของนักเรียนระดับประถมศึกษา โดยเฉพาะหนังสือวรรณคดีลำนำ ได้คัดลอกภาพทั้ง ๑๒ ภาพ และข้อความข้างใต้ภาพเรียงลำดับตั้งแต่ต้นจนจบ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
๑. นิทานยายกะตา ให้ความรู้เกี่ยวกับสังคมไทย ด้านเกษตรกรรมที่ดี ข้าว ถั่ว งา เป็นอาหารหลัก แสดงด้วยความรักห่วงใย ของปู่ย่า ตายาย ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีต่อหลาน
๒. แสดงถึงการอบรมสั่งสอนให้หลานเชื่อฟังคำสั่งของตายาย
๓. สั่งสอนให้คนไทยเอาใจใส่ธุระของผู้อื่น อย่าดูดาย เมื่อใครมาขอความช่วยเหลือทันที ไม่ควรคิดว่า ธุระไม่ใช่ หรือไม่ใช่ธุระของตน นั่นคือมีความเอื้ออาทร ช่วยเหลือทุกข์ของผู้อื่น และเฉลี่ยความสุขเผื่อแผ่ไปในสังคม อันเป็นคุณธรรมของสังคมไทยมายาวนาน



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิทานพื้นบ้านไทย เรื่อง พระนางจามเทวี

นิทานพื้นบ้าน เรื่อง ลิลิตรพระลอ

นิทานเรื่อง ปู่ตั๋วหลาน (ปู่โกหกหลาน)